Monday, January 30, 2012

ธุรกิจครอบครัวการสืบทอดสู่รุ่นต่อไป



ในปัจจุบัน มีความพยายามที่น่าสนใจ หรือ การเกิดกระแสของ "การปั้นธุรกิจครอบครัว"  ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน  แบบชนิด "บูมสนั่น"  เป็นคลื่นกระแทกสู่ฝั่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ซึ่งอาจเป็นเพราะ ในอดีตเราละเลยเรื่องนี้กันมานาน ปล่อยให้ ธุรกิจทั้งหลาย ล้มลุกคลุกคลาน แสวงหาแนวทางของตนเอง  แต่ก็ยังมีนักวิชาการและผู้ที่สนใจศึกษาในเรื่องธุรกิจครอบครัวอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพียงแต่เป้าหมายอาจจะแตกต่างกันออกไป ตามธรรมชาติของผู้ที่ศึกษา

                 ในปี 2554 ที่ผ่านมา หนังสือ "เจาะ DNA ธุรกิจครอบครัวไป " ได้ส่งผ่านไปยังมือ ของธุรกิจครอบครัว  นักศึกษาทางธุรกิจ และผู้ที่สนใจในธุรกิจครอบครัว จำนวนไม่น้อย

                   ประด็นหนึ่งซึ่งเป็นที่สนใจกันมากว่า  "ทายาทธุรกิจครอบครัว รุ่นใหม่ " สนใจอยากดำเนินธุรกิจครอบครัวต่อจากรุ่นก่อนหรือไม่
.                  ..ในบางธุรกิจก้ไม่มีความสนใจเลย เพราะเห็นความยากลำบาก  การทำงานแบหามรุ่งหามค่ำ ทายาทฯรุ่นลูกก็ไม่อยากทิ้งความสุขสบายลงมามือเปื้อน
                   . ..ในบางธุรกิจ ผู้ก่อตั้ง อยากให้ทายาทฯ เข้ามาช่วยทำในธุรกิจครอบครัว แต่ยังขาดประสบการณ์ต้องเรียนรู้ กันอยู่
                   ...มีบางองค์กร อาสาตนเองเข้ามาเตรียมความพร้อมให้ธุรกิจครอบครัว ทั้งอบทั้งรม  แต่พอลงสนามจริง กลับไปเป้นอย่างที่ได้ไปอบรมมา  แต่อาจได้สายสัมพันธ์ การร่วมธุรกิจใหม่ ๆ ที่ต่างไปจากธุรกิจเดิม
                     ...บางคนก็ไม่ได้สนใจไปร่ำเรียนที่ไหน อาศัย อ่าน นสพ. ต่าง ๆ ที่ สื่อพยายามปรับมาเล่นหัวข้อนี้เพราะเป็นกระแส   แต่ก็เป็น "กรณี" ที่บอกไม่หมด มีแต่สิ่งดี ๆ หากลองไปทำบ้างมีทั้งได้ผลและเจ๊ง
                    คำถามคือ ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น
                   ผู้เขียนคิดว่า เราคงต้องกลับมาที่พื้นฐาน
                 ..เมื่อไม่นานนักได้มีโอกาสเป็นวิทยากรที่ปรึกษาในการไปจัดทำ วิสัยทัศน์ และภารกิจ ให้กับธุรกิจครอบครัวที่ตั้งมาตั้งแต่รุ่นพ่อ  จนกระทั่งปัจจุบันอยู่ในมือรุ่นลูก แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมคือมีความตั้งใจอยากทำธุรกิจต่อ แต่เป็นลักษณะ คิดกันเองในครอบครัว เรียนรู้จากความสำเร็จในอดีต และรุ่นลูกในปัจจุบันที่จบการศึกษามาดีพอสมควร
 แต่ธุรกิจ "ไม่แรงอย่างที่คิด" ซึ่งอาจจะมีหลายปัจจัย ซึ่งผู้เขียนเห็นว่า มีปัจจัยหนึ่งคือ "การเตรียมความพร้อม"  ใน 2 ลักษณะ
                    อย่างแรก ความพร้อมด้านพื้นฐานการศึกษา 
                    ผู้เขียนมีข้อมูลจากการศึกษา ในปี 2010 ของ KPMG ที่ได้ทำการศึกษาผู้ประกอบการในออสเตรเลีย  พบว่า
  การเตรียมทายาทรุ่นใหม่ ด้านการศึกษามีดังนี้
                    -ความรู้ในด้านการศึกษามีคุณสมบัติ
                                หรือปริญญา ระดับ Undergrad   40.38%
                     -ความรู้ในด้านการศึกษามีคุณสมบัติ
                                หรือปริญญา ระดับ Post grad    19.23%
                    -อนุปริญญา                                      17.32%
                    -เกรด 12                                       15.38%
                    -เกรด 10                                       5.77%
                    -คุณสมบัติทางการค้า                           1.92%
                  อย่างที่สอง ความรอบรู้ในธุรกิจ (Business  Acumen)
                   เป้นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวุฒิความรู้   ยิ่งเรียนมากเท่าไหร่ แต่ขาดความรู่ในธุรกิจ และประสบการณืในทำธุรกิจจริง ๆ มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน  เพื่อนของผู้เขียนที่เป็นผู้ประกอบการแบบธุรกิจครอบครัว จะพบว่ารุ่นทายาท ยังอ่อนประสบการณ์ หรือ คิดแบบในตำราเรียนมากกว่าที่จะนำไปใช้จริงได้  ซึ่งคงต้องให้เวลาในการเรียนรู้และพัฒนา อต่ก็อาจไม่ทันใช้งานเพราะปัจจุบันธุรกิจแข่งขันกันสูง และภูมิทัศน์ทางธุรกิจก็ไม่เหมือนสมัยรุ่นก่อตั้ง หรือ รุ่นก่อน

                  การเตรียมพร้อมสร้างทายาทธุรกิจครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญแต่คงไม่ได้ทำด้วยการไปฟัง บรรยาย -อบรมสัมมนา - แต่ต้องมีโมเดลการเรียนรู้  และเรียนรู้จากโมเดลของธุรกิจครอบครัวที่ ประสบความสำเร็จจากหลาย ๆ รุ่นจนถึงปัจจุบัน  ถอดรหัสความสำเร็จได้  จนกล้าเกร่งไปพัฒนาโมเดลความสำเร็จใหม่ของธุรกิจครอบครัวขึ้นมาได้


ดร.ดนัย เทียนพุฒ
วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันพระปกเกล้า
โทร 029301133  email: drdanait@gmail.com

        



No comments:

Post a Comment